1. ที่มาแนวคิดและแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์โรงแรมบูติก (Inspiration)

โรงเเรมทั่วไปอาจจะสร้างให้ดูหรูมีระดับเเละอยู่ในพื้นที่ที่ตัวเมือง เเต่ไม่ใช่ที่ เรือนเเพริเวอร์เเคว จังเกิ้ล ราฟท์ (River Kwai Jungle Rafts) อ.ไทรโยค  จ.กาญจนบุรี  ที่เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกมาตั้งเเต่ปี 1976 โดยรีสอร์ทธรรมชาติกึ่งวัฒนธรรมเเห่งนี้ยังคงอนุรักษ์เเนวคิดที่อยู่กับธรรมชาติ (Back-to-basic) ที่รีสอร์ทจะไม่ใช้ไฟฟ้าเเต่จะใช้เเสงสว่างจากตะเกียงทดเเทนเเละอาศัยความเย็นจากเเม่น้ำที่อยู่ใต้เรือนเเพ 

โดยวิสัยทัศน์ของการก่อตั้งรีสอร์ทลอยน้ำเเห่งนี้ จะไม่เป็นที่พักเท่านั้น เเต่จะเป็นเเหล่งท่องเที่ยวเเห่งหนึ่ง ที่ให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกเข้ามาสัมผัสธรรมชาติจากป่าเขาเขียวขจีที่รายล้อมเเม่น้ำเเคว เเม่น้ำสายประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2   มาสัมผัสวัฒนธรรมชาวมอญ ชนกลุ่มน้อยที่ข้ามถิ่นมาจากพม่า ที่สร้างหมู่บ้านอยู่บริเวณรีสอร์ทมานาน  เเละสัมผัสเรียนรู้ประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ตามเเนวเเม่น้ำเเคว อีกทั้งธรรมชาติที่นี่ยังบริสุทธิ์อยู่มาก การเดินทางต้องเดินทางด้วยเรือหางยาวของรีสอร์ทมายังรีสอร์ทลอยน้ำเเห่งนี้

2. จุดเด่น ความเป็นเอกลักษณ์ของโรงแรมบูติก (Distinctiveness)

ริเวอร์แคว จังเกิ้ลราฟท์ ลอยอยู่บนโค้งน้ำที่สวยที่สุดเเห่งหนึ่ง มีป่าเขียวขจีที่ขึ้นดกทึบเเละหน้าผาหินสวยงามที่สร้างสรรโดยธรรมชาติโอบล้อมเกิดเป็นวิวทิวทัศน์อันสวยงามที่เเตกต่างไม่เหมือนใคร โดยเเพที่พักเเพนี้ได้ออกเเบบให้มีทั้งกลิ่นอายของธรรมชาติเเละวัฒนธรรมชาวมอญ โดยเเนวคิดของทางรีสอร์ทลอยน้ำนี้จะอนุรักษ์สภาพเเวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยจะไม่ใช้ไฟฟ้าเเต่จะใช้เปลวไฟในตะเกียงให้เเเสงสว่าง  ยามพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า
จะมีเพียงเปลวไฟตะเกียง เเสงดาวเเละเสียงเเม่น้ำไหลอยู่เท่านั้น ซึ่งยังสร้างบรรยากาศที่สวยงามราวกับอยู่บนสวงสวรรค์

นอกจากนี้ ยามค่ำคืน จะมีการเเสดงที่หาชมได้ยากของชาวมอญรามัญ เรียกว่า ระบำมอญ ซึ่งทางจังเกิ้ลราฟท์ เป็นผู้อนุรักษ์เเละเผยเเพร่ให้ชาวมอญในหมู่บ้านนำการร่ายรำที่สวยงามเหล่านี้มาเเสดงให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชม
ซึ่งการร่ายรำนี้สะท้อนถึงวัฒนธรรมเเละวิถีชีวิตประเพณีเเต่เดิมของชาวมอญ นักท่องเที่ยวที่มาพักกับทางรีสอร์ทยังสามารถเยี่ยมชมหมู่บ้านชาวมอญ โรงเรียนเเละวัดมอญ โดยเดินข้ามไปบนฝั่งทางด้านหลังของรีสอร์ท  หรือเดินไปสักการะถ้ำพระมอญ  โดยผ่านทางเส้นทางที่ชาวมอญ เรียกว่า ผาเอน

ความคิดสร้างสรรค์ด้านการออกแบบการบริการ (Service Design)

จังเกิ้ลราฟท์ให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาได้เพียงทางน้ำเท่านั้น เพื่อเป็นการคง concept อันโดดเด่นของ floating hotel หรือโรงแรมลอยน้ำ  นักท่องเที่ยวจึงเข้าถึงได้ด้วยเรือเท่านั้น อีกทั้งเป็นโบนัสให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมบรรยากาศ วิวธรรมชาติทั้งป่าไผ่เเละหน้าผาหินสูงชัน และวิถีชีวิตตามแม่น้ำแควน้อยก่อนจะมาถึงรีสอร์ท  โดยในทุกการเดินทาง นักท่องเที่ยวจะเดินทางผ่านหาดควาย ซึ่งเป็นควายที่ทางรีสอร์ทไถ่ชีวิต มานอนอาบแดดริมแม่น้ำให้นักท่องเที่ยวชม เป็นสีสันเล็กๆ น้อยๆ ก่อนเดินทางถึงที่จังเกิ้ลราฟท์

การออกเเบบสร้างสรรค์องค์ประกอบหลักของเรือนเเพทำจากไม้เเละไม้ไผ่  เเต่ละเรือนเเพจะเเยกเป็นหลังๆ มุงด้วยหญ้าเเฝก บนเรือนเเพมีการตกเเต่งด้วยดอกไม้นานาชนิด ในห้องพักจะมีเเนวคิดให้มีกลิ่นอายของบ้านพักของมอญ สร้างด้วยไม้เเละตกเเต่งด้วยไม้ไผ่สานมีผ้ามุ้งไว้กันเเมลงเเละจะมีระเบียงให้เเขกที่เข้าพักนอนไกวเปลญวนที่อยู่บนระเบียงรับชมวิวเเม่น้ำได้อย่างเพลิดเพลิน  ตามวิถีสโลว์ไลฟ์ (Slow Life) โดยช่วงเวลาเช้าท่านจะได้รับชมเเละมีโอกาสถ่ายรูปคู่กับช้างที่ลงมาอาบน้ำในเเม่น้ำเป็นเสน่ห์ที่น่าสนใจที่นักท่องเที่ยวเฝ้ารอคอย จากเรือนเเพลอยน้ำนี้เเขกที่เข้าพักสามารถเดินข้ามสะพานไม้ไผ่ไปยังบนฝั่งได้โดยบนฝั่งสามารถทำกิจกรรมได้มากมาย อาทิ ขี่ช้าง เดินป่า รวมถึงเยี่ยมชมหมู่บ้านมอญ วัดมอญ และถ้ำพระนอนได้

ความโดดเด่น และ ความยั่งยืน (Sustainability)

ที่จังเกิ้ล ราฟท์ เรามีนโยบายที่ชัดเจนต่อสิ่งแวดล้อมและสัตว์ป่า โดยหากใครตัดต้นไม้ โดยไม่ได้ขออนุญาตหรือจำเป็นเช่น ไม้ตายและใกล้ล้มเสี่ยงเป็นอันตรายแก่ผู้คน จะถือเป็นการผิดระเบียบรีสอร์ทร้ายแรง และหากใครมีการจับหรือทำร้ายสัตว์ป่า ก็จะถือเป็นความผิดร้ายแรงเช่นกัน

ในเชิงชุมชน บริกรของรีสอร์ทส่วนใหญ่จะเป็นชาวมอญในพื้นที่ โดยเป็นชาวมอญจากหมู่บ้านมอญที่อยู่บนฝั่งที่ได้รับการจัดสรรพื้นที่ของรีสอร์ทให้อยู่อาศัย ทางจังเกิ้ลราฟท์ ต้องการสร้างชุมชนที่มีคุณภาพจึงสร้างโรงเรียนเพื่อให้การศึกษาแก่เด็กมอญและเพื่อช่วยดูแลเด็กๆ ระหว่างที่พ่อแม่ไปทำงาน เราสร้างวัดมอญเพื่อเป็นสถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ มีการรักษาพยาบาลดูแลเรื่องกำจัดยุงลายและอื่นๆ  จัดสรรน้ำสะอาดเเละฝึกสอนอาชีพต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานช่าง งานเกษตร งานแม่บ้าน งานรำในการแสดงระบำมอญ

ลักษณะการเเต่งตัวของชาวมอญจะทาเเป้งทานาคา ที่จะบำรุงผิวพรรณและป้องกันแสงแดดไปพร้อมกัน โดยจะทาเป็นวงกลมบริเวณเเก้ม ในเด็กมอญสมัยใหม่ อาจจะวาดเป็นรูปดอกไม้แทนที่จะเพียงแค่วนเป็นวงกลม เเละชอบมอญจะนิยมนุ่งโสร่ง ทางรีสอร์ทจึงจัดให้ชุดเเบบมอญนี้เป็นการยูนิฟอร์มที่รีสอร์ทด้วย โดยนักท่องเที่ยวสามารถทดลองทานาคานี้ได้เช่นกัน

ช้างที่รีสอร์ทของเราได้รับการดูแลเป็นอย่างดีทั้งอาหารและสถานที่  โดยเราใช้ช้างเพื่อการท่องเที่ยว คือ ให้ลูกค้าสามารถมาให้อาหารช้างได้ มาดุช้างอาบน้ำยามเช้าได้ โดนช่วงเย็น ช้าจะ
และควาญช้างของเราไม่ได้รับอนุญาติให้ใช้ตะขอในการฝึกสอนช้าง นอกจากนี้ เรายังได้รับซื้อวัวและควายจากโรงฆ่าสัตว์มาเลี้ยงดูในพื้นที่อีกด้วย เราไม่เพียงแค่ใส่ใจในธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเท่านั้น

การันตีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร โดยเกียรติยศที่ได้รับ เช่น Top 10 Adventure Resorts จาก Agoda เเละได้รับเลือกจาก Telegraph UK เป็น Four of the Best Floating Hotel in the World ปี 2554 เเละ ได้รับการยกย่องจาก CNN Travel เป็น Fantastic Floating Hotel for every traveler ปี 2554  เเละยังเคยต้อนรับทีมสารคดีจาก National Geographic เเละ Lonely Planet  เเละ รายการTravel with Kids ในประเทศอังกฤษ